Blog นี้เป็น ที่สำหรับแสดงผลงานเพลงของผมและแจกโน้ตเพลงนะครับ หวังว่าจะชอบ blog นี้กันนะครับ
สถานะ
ติดตามเพลงและผลงานใหม่ๆ ของผม หรือเข้ามาคุยกันแบบเรียลไทม์ได้ทางเพจ www.facebook.com/notekeyboard นะครับ
*สำหรับคอร์ด ที่เห็นในโน้ตนั้น สำหรับมือซ้าย อยากรู้ว่าต้องกดโน้ตอะไรบ้าง กดที่นี่ แล้วใส้ชื่อคอร์ดที่ต้องการรู้ได้เลยนะครับ
ค้นหาบล็อกนี้
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คิดถึง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คิดถึง แสดงบทความทั้งหมด
วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2565
วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563
วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560
วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554
นาน ๆ ที มีคนคิดถึงบ้างก็ดีเหมือนกัน
เคยไหมที่มีความรู้สึก อยากเข้มแข็ง อยากเป็นตัวของตัวเอง อยากอยู่ได้ด้วยกำลังของตนเอง ไม่ต้องพิ่งใคร ๆ อยากมีคุณค่าในสายตาคนอื่น อยากมีประโยชน์ต่อสังคม
ผมว่าหลาย ๆ คนคงเคยมีความรู้สึกแบบนี้นะครับ โดยเฉพาะเด็กที่กำลังโต (อย่างผม ^^) ก็ย่อมอยากปีกกล้าขาแข็ง บ้างเป็นธรรมดา อะไรกันจะพึ่งแต่พ่อแม่ตลอดไปเลยรึไง ทำให้หลาย ๆ คนพยายามที่จะหาเป้าหมายเพื่อก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จนั้น หลายคนก็มีหลายวิธี อาทิ ตั้งใจเรียนให้โหด ๆ จะได้ติดคณะดีดีมีงานทำแน่นอน หารายได้พิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ทำงาน part-time หรือ สอนพิเศษ แม้กระทั่งทำธุรกิจเครือข่าย เพื่อให้ได้มาซึ่ง เงิน หรือ ผลตอบแทนอื่น ๆ ซึ่งทำให้ตัวเองดูมีคุณค่าขึ้นมา
แน่นอนครับ การทำอะไรทุกอย่างย่อมต้องการการทุ่มเท สละแรงกาย แรงใจ เวลา จะอาจทำให้หลาย ๆ คนมัวแต่มองเป้าหมายของตนเอง จนลืมสังเกต ใส่ใจ สิ่งรอบข้างใกล้ ๆ ตัวไปบ้าง
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีเป้าหมายไว้ให้พุ่งชน (กระทิงแดงเปล่าหว่า) และผมก็เป็นคนที่ค่อนข้างเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่ตัวเองได้เลิอกที่จะทำแล้ว ผมคิดว่า คนเรามันจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมีประโยชน์ต่อสังคม ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ผมก็เลยมักจะบ้างานจนไม่ค่อยได้สนใจใครเท่าไร โดยเฉพาะตอนสอบ ENT นี่ผมบ้าเรียนมากแทบไม่ใส่ใจเพื่อน ๆ เลย(เพื่อนมันบอกว่าผมเปลี่ยนไปนะครับ ถึงได้รู้)
ในตอนนั้นในใจมันก็เหงานะครับ การพยายามสร้างคุณค่าให้ตัวเอง แต่กลับลืมใส่ใจคนรอบข้าง จนคนรอบข้างก็ลืมใส่ใจเราไปแล้วเหมือนกัน (กลายเป็นมนุษย์โลกลืม) ผมก็ลืมคิดถึงข้อนี้ไป
จนกระทั่งวันหนึ่ง โทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นขณะที่ผมกำลังอ่านหนังสือ ผมก็กำลังจะรับด้วยความหงุดหงิด แต่เมื่อมองไปที่เบอร์คนโทรมา ผมก็สะอึก เพราะคนโทรมาคือคนที่ผมเคยใส่ใจ และห่วงใยความรู้สึก ก่อนที่ผมจะมีภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ให้ต้องทำคือ "ENT ให้ติด" เธอโทรมาถามผมเรื่องนู้นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อย ผมก็งงว่า เอ๊ะ จะโทรมาทำไมถ้าไม่มีเรื่องจะถามเป็นสาระ คำตอบของเธอทำผมอึ้งไปเลย "เพราะคิดถึง....."
อันที่จริงผมก็คิดถึงเธอมากเหมือนกัน แต่ว่ามัวแต่ทำนู้นทำนี่ จนไม่ได้โทรหาเลย (ที่จริงก็เป็นเพราะเกลียดโทรศัพท์ด้วยแหละ) พอคุยปุ๊บ ก็ไม่อยากวางสายเลย เพราะมันทำให้ผม "หายเหงา"ลงได้
มันก็เลยทำให้ผมได้คิดอะไรหลาย ๆ อย่าง มันจะไปมีประโยชน์อะไรครับ ถ้าเราพยายามมีคุณค่าในสายตาคนอื่น แต่กลับลืมสิ่งสำคัญที่อยู่กับตัวเองไป มัวแต่ทำงานจนลืมคนที่ห่วงใยเราไป แล้วก็มาตีโพยตีพายว่า อุตส่าห์ทำงานแทบแย่ แต่ไม่มีใครสนใจ เหงา ขาดความอบอุ่น ก็เพราะเรานี่แหละ ที่ลืม "ใส่ใจ" เขาก่อน
ขอบคุณมากนะ ที่โทรมาวันนั้น ที่บอกว่าคิดถึง แม้จะนาน ๆ ที ก็เถอะ
เพลงนี้ก็แต่งมาจากเรื่องที่พล่ามไปด้านบนนั้นแหละครับ แต่ก็ดัดแปลงนิด ๆ หน่อย ๆ เพื่อความน่ารัก(เหรอ) กับ ความคล้องจอง
เพลงนี้ใช้วิธีแต่งทำนองด้วยโปรแกรม Sibellius6 ซึ่งเป็นโปรแกรมเขียน Score เพลงในรูปแบบโน๊ตดนตรีสากล (ตอนหน้าจะเอามาแจก) แล้วใช้ iPhone ในการอัดวีดีโอทั้งหมด รวมทั้งเสียงคนร้อง
จากนั้้นใช้โปรแกรม vegas pro ในการ mix เสียงและภาพเข้าด้วยกัน(ถ้ามีโอกาสจะแจกครับ)
ผมว่าหลาย ๆ คนคงเคยมีความรู้สึกแบบนี้นะครับ โดยเฉพาะเด็กที่กำลังโต (อย่างผม ^^) ก็ย่อมอยากปีกกล้าขาแข็ง บ้างเป็นธรรมดา อะไรกันจะพึ่งแต่พ่อแม่ตลอดไปเลยรึไง ทำให้หลาย ๆ คนพยายามที่จะหาเป้าหมายเพื่อก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จนั้น หลายคนก็มีหลายวิธี อาทิ ตั้งใจเรียนให้โหด ๆ จะได้ติดคณะดีดีมีงานทำแน่นอน หารายได้พิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ทำงาน part-time หรือ สอนพิเศษ แม้กระทั่งทำธุรกิจเครือข่าย เพื่อให้ได้มาซึ่ง เงิน หรือ ผลตอบแทนอื่น ๆ ซึ่งทำให้ตัวเองดูมีคุณค่าขึ้นมา
แน่นอนครับ การทำอะไรทุกอย่างย่อมต้องการการทุ่มเท สละแรงกาย แรงใจ เวลา จะอาจทำให้หลาย ๆ คนมัวแต่มองเป้าหมายของตนเอง จนลืมสังเกต ใส่ใจ สิ่งรอบข้างใกล้ ๆ ตัวไปบ้าง
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีเป้าหมายไว้ให้พุ่งชน (กระทิงแดงเปล่าหว่า) และผมก็เป็นคนที่ค่อนข้างเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่ตัวเองได้เลิอกที่จะทำแล้ว ผมคิดว่า คนเรามันจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมีประโยชน์ต่อสังคม ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ผมก็เลยมักจะบ้างานจนไม่ค่อยได้สนใจใครเท่าไร โดยเฉพาะตอนสอบ ENT นี่ผมบ้าเรียนมากแทบไม่ใส่ใจเพื่อน ๆ เลย(เพื่อนมันบอกว่าผมเปลี่ยนไปนะครับ ถึงได้รู้)
ในตอนนั้นในใจมันก็เหงานะครับ การพยายามสร้างคุณค่าให้ตัวเอง แต่กลับลืมใส่ใจคนรอบข้าง จนคนรอบข้างก็ลืมใส่ใจเราไปแล้วเหมือนกัน (กลายเป็นมนุษย์โลกลืม) ผมก็ลืมคิดถึงข้อนี้ไป
จนกระทั่งวันหนึ่ง โทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นขณะที่ผมกำลังอ่านหนังสือ ผมก็กำลังจะรับด้วยความหงุดหงิด แต่เมื่อมองไปที่เบอร์คนโทรมา ผมก็สะอึก เพราะคนโทรมาคือคนที่ผมเคยใส่ใจ และห่วงใยความรู้สึก ก่อนที่ผมจะมีภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ให้ต้องทำคือ "ENT ให้ติด" เธอโทรมาถามผมเรื่องนู้นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อย ผมก็งงว่า เอ๊ะ จะโทรมาทำไมถ้าไม่มีเรื่องจะถามเป็นสาระ คำตอบของเธอทำผมอึ้งไปเลย "เพราะคิดถึง....."
อันที่จริงผมก็คิดถึงเธอมากเหมือนกัน แต่ว่ามัวแต่ทำนู้นทำนี่ จนไม่ได้โทรหาเลย (ที่จริงก็เป็นเพราะเกลียดโทรศัพท์ด้วยแหละ) พอคุยปุ๊บ ก็ไม่อยากวางสายเลย เพราะมันทำให้ผม "หายเหงา"ลงได้
มันก็เลยทำให้ผมได้คิดอะไรหลาย ๆ อย่าง มันจะไปมีประโยชน์อะไรครับ ถ้าเราพยายามมีคุณค่าในสายตาคนอื่น แต่กลับลืมสิ่งสำคัญที่อยู่กับตัวเองไป มัวแต่ทำงานจนลืมคนที่ห่วงใยเราไป แล้วก็มาตีโพยตีพายว่า อุตส่าห์ทำงานแทบแย่ แต่ไม่มีใครสนใจ เหงา ขาดความอบอุ่น ก็เพราะเรานี่แหละ ที่ลืม "ใส่ใจ" เขาก่อน
ขอบคุณมากนะ ที่โทรมาวันนั้น ที่บอกว่าคิดถึง แม้จะนาน ๆ ที ก็เถอะ
เพลงนี้ก็แต่งมาจากเรื่องที่พล่ามไปด้านบนนั้นแหละครับ แต่ก็ดัดแปลงนิด ๆ หน่อย ๆ เพื่อความน่ารัก(เหรอ) กับ ความคล้องจอง
เพลงนี้ใช้วิธีแต่งทำนองด้วยโปรแกรม Sibellius6 ซึ่งเป็นโปรแกรมเขียน Score เพลงในรูปแบบโน๊ตดนตรีสากล (ตอนหน้าจะเอามาแจก) แล้วใช้ iPhone ในการอัดวีดีโอทั้งหมด รวมทั้งเสียงคนร้อง
จากนั้้นใช้โปรแกรม vegas pro ในการ mix เสียงและภาพเข้าด้วยกัน(ถ้ามีโอกาสจะแจกครับ)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)