สถานะ

ติดตามเพลงและผลงานใหม่ๆ ของผม หรือเข้ามาคุยกันแบบเรียลไทม์ได้ทางเพจ www.facebook.com/notekeyboard นะครับ
*สำหรับคอร์ด ที่เห็นในโน้ตนั้น สำหรับมือซ้าย อยากรู้ว่าต้องกดโน้ตอะไรบ้าง กดที่นี่ แล้วใส้ชื่อคอร์ดที่ต้องการรู้ได้เลยนะครับ

ค้นหาบล็อกนี้

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แอดมิชชั่น 55 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แอดมิชชั่น 55 แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เพลงนี้สำหรับน้อง ๆ แอดมิชชั้นปีนี้ ที่เจอวิกฤตน้ำท่วมเล่นงาน

     สวัสดีคร๊าบ วันนี้ผมก็มีเพลงนึงมานำเสนอ แรงบันดาลใจก็มาจาก ตอนนี้ครับ ผมมีลูกพี่ลูกน้องอยู่คนหนึ่ง ปีนี้ครับ เธอจะต้อง สอบ Admission (ต่อไปผมจะเรียกว่าสอบเอนท์นะครับ ติดปากมาแต่เด็ก)  ก็คือว่าเธออยากเรียนต่อในคณะทันตแพทย์เหมือนผม ซึ่งเธอก็พยายามเรียนอย่างตั้งใจเรื่อยมาครับ แต่เผอิญครับ
     ปีนี้ครับเกิดวิกฤตการณ์น้ำท่วม การสอบ GAT PAT ก็ต้องเลื่อนออกไปหมด รวมไปถึงการสอบวิชาเฉพาะของ กสพท.(กลุ่มสถาบันการแพทย์แผนไทย มั่ง 5555)ก็ต้องเลื่อนออกไปด้วย
   
   
     พูดถึงวิชาความถนัดทางการแพทย์ของกสพท.แล้ว ก็ขอเล่าเสียหน่อยแล้วกัน คือสมัยผม ข้อสอบจะมี สามชุด มีความคิดเชื่อมโยง ทักษะความถนัด(รวมไอคิวและคณิตศาสตร์) และจริยธรรม
 
      ไอ้ส่วนเชื่อมโยงเนี่ย กสพท. เป็นคนนำเทรนเข้ามาครับ ผมจำได้ เพราะผมเป็นรุ่นแรกที่ได้สอบ GAT PAT แล้วผมบังเอิญไปทำข้อสอบเก่าของ กสพท. ก็เจอตัวอย่างเลยครับ "นักเรียนดี" วิธีบรรยายตัวอย่างและวิธีทำข้อสอบ มันช่างเหมือนแป๊ะ เหมือนกับการสอบ GAT ครั้งแรกในชีวิตผม และครั้งแรกของนักเรียนไทย (แอบภูมิใจเล็ก ๆ )
      จะว่าไปแล้วในการสอบ GAT ครั้งแรกนั้น หากใครทำส่วนเชื่อมโยงได้ ก็จะได้เต็มไปเลยครับ แต่ถ้าไม่ได้ก็จะได้แค่ ประมาณสิบกว่า ๆ คะแนนจาก ร้อยห้าสิบคะแนน สาเหตูครับ เพราะ "อ่านวิธีทำไม่เข้าใจ" (ผมก็เชื่อว่าเด็กส่วนหนึ่งไม่ได้อ่านข้อสอบด้วยซ้ำ กำลังจะตั้งท่าดิ่งข้อ ค. แต่มาเจอ choice 99H เข้า ก็ฝนมั่วแม่มเลยทีนี้) ซึ่งผมก็บอกตรง ๆ ว่าอ่านแล้วงง ฉิ-หาย ต้องดูตัวอย่าง วิเคราะห์ พลิกไปพลิกมาระหว่างคำอธิบายกับตัวอย่างอยู่กว่าครึ่งชั่วโมง จึงได้เริ่มทำ
     จนกระทั่งหลัง ๆ ก็มีคนรู้แกว ออกมาเปิดคอร์สสอน "วิธีทำข้อสอบความคิดเชื่อมโยง" กันเป็นขโยงจน อ.อุทุมพร เริ่มหักหลัง ข้อสอบ เชื่อมโยง ไม่ง่ายเหมือนครั้งแรก ครั้งแรกคนเต็มเยอะมาก แต่ครั้งที่สอง กับสาม แทบไม่เห็นคนได้เต็ม  (ครั้งแรกผมได้ เต็ม ครั้งที่สองกับสามได้ 147) ไม่รู้แกไปวางยาไว้ตรงไหน 5555
     พอมาทีนี้ครับ ถึงคราว กสพท. ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเขาคงไม่ได้คุยกับ สทศ. มั่ง จึงออกข้อสอบมาระดับคล้ายปีที่แล้ว   ผมมาถึงก็เปิดส่วนเชื่อมโยงก่อนเลยครับ เจออีกแล้ว "นักเรียนดี" เปลี่ยนตัวอย่างมั่งก็ได้นะครับ ผมเจอมา 3 ครั้งแล้ว แต่ว่างวดนี้ กสพท.ยังเหมือนตามเด็กไม่ทัน ไม่รู้ว่าเด็กไปกวดกันมาหมดแล้ว คะแนนออกมาจึงเต็มกันเป็นทิวแถว ไม่รู้เดี๋ยวนี้กสพท.วิวัฒนาการข้อสอบไปรึยัง ผมว่าแบบนี้มันเริ่ม "น่าเบื่อ" แล้วนะ
"นักเรียนดี" ตัวอย่างข้อสอบที่ไม่เคยเบื่อ....(จาก Dek-d.com)

ผมเบื่อกระดาษข้อสอบแบบนี้แล้วครับ 5555 


     ส่วนที่สอง ชื่ออะไรจำไม่ได้(นานแล้วครับ) แต่เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความถนัด และสิ่งที่ผมเกลียดที่สุด นั้นคือ "เลข" ต้องคิดให้ไวมาก ในเวลาที่น้อย พาร์ทนี้ครับ เป็นพาร์ทที่ผมง่อยมาก ได้คะแนน ไม่ถึงครึ่ง


     ส่วนที่สาม นั่นก็คือส่วน จริยธรรม ก็มีหลายสถาบันกวดวิชามาติวกันเหมือนกันนะครับ ส่วนใหญ่จะเอาจุดขายที่ให้พี่หมอมาสอน คนก็จะเชื่อ(รวมทั้งผม) ซึ่งพี่เค้าจะสอนแนวคิดที่คนเป็นหมอ "ควร"จะมี ผมอ่านโจทย์บางข้อ ก็จะมีวิธีการแก้ปัญหาแตกต่างกันออกไป ซึ่งใครจะเลือกวิธีการไหน มันก็ขึ้นอยู่กับ ภูมิหลัง และ ลักษณะนิสัยส่วนตัวของคนนั้น (สงสัยคนออกข้อสอบอยากจะกรองให้คนที่มาเรียนหมอมีนิสัยเหมือน ๆ กัน) แต่มันก็ไม่ใช่ซะทีเดียวหรอกครับ เพราะก็มีพี่หมอมาสอนแล้วว่า คุณควรจะคิดอย่างไรในสถานการณ์ไหน สิ่งที่คุณตอบลงในข้อสอบ มันก็ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณอยู่ดีแต่เป็นสิ่งที่คุณโดน"บอก"มา (แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันคงวัดคนได้ระดับหนึ่งนั้นแหละครับ เขาจึงยังเลือกใช้ข้อสอบนี้อยู่)
ส่วนนี้ปรากฏว่าผมทำได้ดีครับ ได้ 70/100 ก็ไม่รู้ว่าเพราะลักษณะการคิดอย่างผมเหมาะกับการเป็นหมอ หรือเพราะผมถูกสอนมาดีให้เลือกข้อที่คะแนนเยอะที่สุด
     และก็มีเรื่องแปลกอยู่เรื่องนึง เท่าที่ผมสังเกตุ คนที่ได้ส่วนความถนัดไอคิวเยอะ จะได้จริยธรรมน้อย ส่วนคนที่ได้ไอคิวน้อย กลับจะได้จริยธรรมเยอะ(เช่นผม) ผมสังเกตมาหลายคนแล้วครับ ^^




     พล่ามเรื่องกสพท.ไปซะเยอะ (ก็ผมเคยสอบแต่อันนี้อ่ะ อย่างอื่นไม่มีความรู้จะพูด) ก็กลับมาเข้าเรื่องครับ ปีนี้เนื่องจากมีน้ำท่วม การสอบต่าง ๆ จึงเลื่อนกันกระจาย หลายคนก็คิดว่ามันก็ดีนะจะได้มีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้นไง แต่ผมจะบอกว่า ในความเห็นของผม มัน "ผิดถนัด" ครับ แน่ใจหรือว่าจะอ่านหนังสือได้เยอะขึ้น ไม่เครียดมากขึ้น นานขึ้นเหรอ การอ่านหนังสือสำหรับผมมันจะมีจุดอิ่มตัว เป็นจุด peak ที่่อ่านได้มากที่สุด จำได้มากที่สุด หลังจากนั้นมันจะอึน ๆ ซา ๆ (เชื่อว่าหลายคนก็เป็น) ถ้าหากเรารู้วันสอบที่แน่นอน เราก็สามารถเตรียมตัวเราให้ฟิต ให้ก่อนสอบ ความรู้เรามัน peak สอบก็สบาย แต่ถ้าเกิดเราต้องรอต่อไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้สอบเมื่อไหร่ อ่านซ้ำเข้า ซ้ำเข้า มันก็จะล้าและเบื่อครับ และที่สำคัญที่สุด เราจะสับรางไม่ทันตอนช่วงประกาศผล เนื่องจากทุกการสอบเลื่อนมากระจุกกันหมด จะสอบตัวไหนก็ต้องเลือกดีดี ต้องพลาดบางที่ไป แล้วพอประกาศออกมา เกิดไม่ได้ที่ที่พอใจ จะหาที่ไหมสอบ ก็ไม่ทัน เพราะจะเปิดเทอมแล้ว (ของผมนี้ ปิดเทอม สงกรานต์เลยนะครับ ไม่รู้น้อง ๆ ที่เรียนม.ปลายจะได้ปิดเทอมมาเตรียมตัวกันเมื่อไหร่)


     ก็นะครับ น่าเห็นใจน้อง ๆ แอดมิชชั่นปีนี้ ที่ต้องแบกรับความเครียด ความมีภาระในใจ(ไปเที่ยวก็ไม่สนุก) นานกว่าเด็กปีอื่น ๆ และก็ขอให้สู้เข้าไว้นะครับ เผื่ออนาคตอันงดงาม เพื่อคนที่รอให้เรามาสร้างประโยชน์ให้
     สุดท้ายนี้ ขอมอบเพลง "ตามฝัน" นี้ ให้น้อง ๆ ทุกคนนะคร๊าบ


เพลงเพื่อสิ่งแวดล้อม เพลงแรกที่ได้รางวัล ทำให้ผมมีกำลังใจแต่งเพลงมาเรื่อย ๆ

     พอผมเริ่มเข้าเรียนในปีหนึ่ง ที่คณะทันตแพทยศาสตร์ ปีหนึ่่งยังเป็นปีที่ชีวิตสนุกสนานครับ ได้เที่ยวเล่นแทบจะทั่วรั่วจุฬาลงกรณ์ เนื่องจากมีวิชาเรียนจากหลากหลายคณะให้เลือกเรียนครับ (เรียกว่าวิชา GEN ED) และเป็นปีเดียวที่ผมจะได้มีโอกาสเลือกเรียนวิชาเหล่านี้ (เป็นข้อบังคับของ กลุ่มคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ เนื่องจากปีสองขึ้นไปมีวิชาเรียนเยอะมากจนเต็มหน่วยกิต จึงต้องเรียนวิชาเลือกเสรีให้ครบหน่วยกิตตั้งแต่ปีหนึ่ง) ก็ดีครับ ผมได้เที่ยวไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ไปลองของดีประจำคณะต่าง ๆ เช่น ไอติมบัญชี ก๋วยเตี๋ยวอดทนของรัฐศาสตร์ ฯลฯ
นี่ครับ ไอติมบัญชี
     มีเรื่องตลกจะเล่าให้ฟังครับ เนื่องจากคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยู่ไกลออกมาจาก พื้นที่ส่วนใหญ่ของม. เพราะอยู่ในสยามสแควร์{เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเลือกเรียนที่นี่ เพราะว่ามันเดินทางสะดวกครับ ไม่ได้ตั้งใจมาเดินเล่น shopping ดูหนัง แต่อย่างใด(หรอออ)} คนส่วนใหญ่ในคณะเราทั้งนิสิตและอาจารย์ จึงเรียกบริเวณจุฬาว่า "จุฬาใหญ่" (แอบได้ยินพวกในจุฬาใหญ่เรียกพวกเราว่าพวกชนบท บ้านนอกเหมือนกัน 555) ทีนี้ครับ มีอยู่วันนึง อาจารย์จากคณะเรา จะเข้าไปทำธุระที่จุฬาใหญ่ ก็เรียกแท๊กซี่ แล้วบอกคนขับว่า "น้อง ๆ ไปจุฬาใหญ่" คนขับแท๊กซี่ ตอบมาทันใด ว่า "มีจุฬาเล็กด้วยหรอครับ..."
     เข้าเรื่องกันดีกว่า... ก็พอดีว่ามีอยู่วันหนึ่งครับ (ไม่ใช่วันก่อนนะครับ) ผมไปกินปังเย็นที่คณะสหเวชครับ
(ปังเย็น คือ ขนมปังที่เอามาใส่กับน้ำปั่นหน่ะแหละครับ คล้าย ๆ น้ำแข็งใส แต่ว่าเป็นรสน้ำปั่น)
พูดแล้วไม่เห็นภาพ ดูของจริงเลยดีกว่า
นี่แหละครับ "ปังเย็น" (อันนี้รสโกโก้ครับ)

     พอดีตาผมก็ดันไปเห็นป้ายประกาศว่า "รับสมัครนักแต่งเพลง แต่งเพลงเข้าร่วมโครงการ Health sonata ของคณะแพทยศาสตร์" ตาผมก็ลุกวาวทันใด เพราะมีเงินรางวัลชนะเลิศถึง หนึ่งหมื่นบาท แล้วยังได้นำเพลงไปทำเอ็มวีอีกด้วย ผมก็ไม่รอช้าครับ(อยากดัง) รีบสมัครทันใด โดยที่มีหัวข้อการประกวดอยู่ 5 หัวข้อ ซึ่งผมก็ได้เลือกหัวข้อ สิ่งแวดล้อมครับ ตอนนั้นก็แต่งเล่น ๆ ครับ ไม่ได้คาดหวังว่าจะเอาชนะอะไร ซึ่งผมเองก็มีเพื่อนอีกคนหนึ่งสนใจการแต่งเพลงมาเหมือนกัน (มันเป็นคนทำให้ผมเริ่มแต่งเพลงเลยครับ เรื่องของมันอาจจะได้กล่าวในตอนต่อ ๆ ไป) มันก็แต่งเพลงมาด้วย แล้วให้ผมใส่ทำนองให้ ซึ่งผมก็ทำ แล้วผมก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่า....."เฮ้ย เพลงมันเพราะกว่าเพลงตูหว่ะ ถ้าส่งไป ตูแพ้แน่" 5555 แต่ผมก็ไม่ได้อะไรนะครับ คือทำให้มันจนเสร็จ แต่มันก็บอกว่า มันรู้สึกว่าเพลงมันไม่สมบูรณ์ ขาดไปท่อนนึง ขอไปแต่งต่อ ปรากฏว่าจนกระทั่งวันหมดเขต มันก็ไม่แต่งต่อ จึงพลาดโอกาสลุ้นรางวัลไปอย่างน่าเสียดาย
 เวลาเลยผ่านไปจนถึงช่วงใกล้สอบ ผมก็มัวแต่อ่านหนังสือวิชาคณิตศาสตร์แผนใหม่(ในคอม : P)
ปรากฏว่ามีโทรศัพท์ลึกลับดังขั้น ผมก็รับ
    คนต่อสายพูดว่า "นั้นคุณ@#$%หรือเปล่าครับ คือ เพลงของคุณได้รับรางวัลนะครับ"
ผมนี้แทบจะตกเก้าอี้เลยครับ เพราะผมโดน ควีนโพธิ์ดำ เต็ม ๆ (สิบสามแต้ม T_T)
คณิตศาสตร์ "แผนใหม่" ของผม


ไม่ใช่แล้วครับ เพราะตื่นเต้นครับ ผมรีบถามไปทันทีว่า "ได้รางวัลอะไรครับ"
    เสียงตอบกลับมาว่า "รางวัลชมเชย ครับ"
ผมก็ห่อลงไปบ้าง (เพราะอยากได้ตังค์เยอะกว่านี้ ><) แต่ก็ไม่เป็นไร นัดสถานที่รับรางวัลกันแล้วก็จั่วกันต่อ ปรากฏว่า ถึงเวลารับรางวัลครับ ผมงี้อึ้งเลย เฮ้ย!!!! ทำไมมีแต่งคนแต่งรุ่น THE ทั้งนั้นเลยอ่ะ ดูอายุอานามแล้วน่าจะ 50+ ผมนึกว่ารายการนี้เปิดเฉพาะนักศึกษาครับ ผมก็เลยได้ใจขึ้นมานิดนึงว่า "เฮ้ย เรามันก็มีฝีมือเหมือนกันแหะ ได้รับรางวัลกับนักแต่งเพลงรุ่นพ่อ" ไม่ได้อยากเทียบรุ่นนะครับ แต่ว่าดีใจครับ
แต่ว่าก็ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวหรอกนะครับ ที่เป็นนักศึกษาแล้วได้รางวัล คือพี่อีกคนหนึ่งครับ เค้าคือคนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ผู้ได้ครอบครองเงิน หนึ่งหมื่นบาท (อิจฉา 5555 ผมได้กลับมากินหนม ห้าร้อย) ก็เป็นนักศึกษาเช่นกัน ก็น่านับถือฝีมือการแต่งเพลงของพี่เค้าครับ
    สรุป ท้ายที่สุดวันนั้น ผมก็กลับบ้านพร้อม ประกาศฯฟิวเจอร์บอร์ดที่เหมือนเวลาเกมโชว์แจกตังค์ หนึ่งป้าย พร้อมเงินในซองอีก ห้าร้อยบาท กับคำชมของแม่ ส่วนในใจผมคิดว่า "ถ้าไอ้ #@# เพื่อนผมได้ส่งเพลงมาด้วยนั้น รางวัลนี้ของผม ต้องตกไปอยู่กับมันแน่นอนครับท่านผู้ชม 5555"
    นี้ครับคือตัวอย่างเพลง "ที่ยังไม่เสร็จ" ของเขา ส่วนเพลงของผมนั้น โดนซื้้อลิขสิทธ์ไปแล้ว และเสียงร้องผมมันก็ทุเรศมาก 5555 ก็เลยขออนุญาติไม่นำมาให้ชมกัน (แต่หาได้ในยูทูปนะ ชื่อเพลงกอด เคยอัพไว้ แล้วเพิ่งมาอ่านกฏหมายลิขสิทธิ์อีกทีก็กลัว ๆ อยู่ แต่ช่างมันเถอะครับ)



สำหรับวีดีโอนี้ ผมใช้โปรแกรม Ulead ในการตัดต่อวีดีโอนะครับ แล้วใช้ Cool edit pro ในการ mix เสียง
แต่โดยรวมแล้ว ผมชอบ sony vegas pro ในการทำวีดีโอมากกว่า เพราะซ่อมได้ทั้งภาพและเสียง